Tuesday, May 18, 2010

"ทักษิณ-บิน ลาดิน" หัวหน้าโจรก่อการร้าย?

By thaipost
Created 18 May 2553 - 00:00

ราตรีกาลยิ่งทอดยาว ยิ่งหนาวและฝันร้ายนะครับ ผมคิดว่า นี่ก็ย่างเข้าวันที่ ๖-๗ ของปฏิบัติการ "ศอฉ.ขอคืนพื้นที่" จากพวกกบฏทักษิณแล้ว ฉะนั้น ไม่น่าจะปล่อยให้ยืดเยื้อยาวนานเกิน วันนี้-พรุ่งนี้ ขืนปล่อยนานไป "ข่าวแต่งหน้า" ในโลกสื่อสาร จะทำให้ประชาคมโลกทิ้งน้ำหนักไปทางกบฏทักษิณ ด้วยมุมมองว่า "ประชาชนน่าจะหนุนกลุ่มกบฏมากกว่าสนับสนุนรัฐบาล" ทหารจึงเอาไม่อยู่
การขีดเส้นตายของ ศอฉ.นั้น-ขีดได้ แต่ขีดจนเปรอะ แล้วไม่มีผลอะไร ระวัง...มันจะกลายเป็น "เส้นตายตัวเอง"!
อย่าว่าแต่ ประชาคมโลกเลยครับ ประชาคมไทยก็เถอะ ขืนลากสถานการณ์นานไป คนจะหน่าย อึดอัด และพาลเกลียดรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ที่เอาเข้าจริงก็ช่วยอะไรไม่ได้อย่างที่ใจเคยหวัง แล้วลงท้าย ความคิดสังคมก็จะตีกลับเชิงประชด
"เมื่อปราบไม่ได้ ก็ยกประเทศให้ฝ่ายกบฏทักษิณไปก็หมดเรื่อง บ้านเมืองจะได้สงบเสียที!"
ผม สะท้อนความรู้สึกของคนระดับชาวบ้านที่สื่อสารถึงผม ให้รัฐบาลและ ศอฉ.ได้ทราบ ส่วนตัวผมนั้น ก็เข้าใจในความยาก-ง่าย และขีดจำกัดหลายๆ อย่างในการทำงาน แต่จะยกเหตุนั้นไปอ้างกับชาวบ้านเขา มันก็อ้างได้ แต่จะให้เขาเข้าใจนั้น...มันยาก เพราะชาวบ้านตกอยู่ใน "สถานการณ์นรก" ด้วยตัวเขาเองจริงๆ
ก็ขอให้การเจรจาของฝ่ายรัฐกับฝ่ายกบฏที่ทำกันทั้ง ลับ-ทั้งแจ้งมาหลายวัน "ลงตัว" เสียที ยอม-ก็สลายม็อบกันไปเลย แต่ถ้าไม่ยอมจะปล่อยให้โยกโย้ "ซื้อเวลา" สะสมคนเจ็บ-คนตายเป็นสถิติไปทีละวันอย่างนี้ไม่ได้
ทหาร-ตำรวจ ควรเข้าสลายทันที!
สถานการณ์ถึงตอนนี้ ในภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า "เสียจนไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว" ฉะนั้น จะมารีรออะไร เสีย-เมื่อแลกกับได้ที่ไม่เยิ่นเย้อ มันก็พอคุ้มมิใช่หรือ?
ที่ว่าเสีย นั้น ไม่ใช่พวกกบฏ หรือตัวหัวหน้ากบฏที่นั่งกระดิกตีน "ต่อสาย-สั่งการ" มาจากมอนเตเนโกรบ้าง ดูไบบ้างที่เสีย แต่เป็น "ประเทศไทย-คนไทย" ตะหาก ประเทศป่นปี้ หัวใจถูกย่ำยีแหลกสลาย นับต่อแต่นี้ไทยจะเป็นไทยที่...ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
สังเกตดูเถอะ แต่ละมุก-แต่ละเม็ดในการต่อรองของพวกกบฏ ถูกกำหนดและสั่งมาจากนายใหญ่ทั้งสิ้น อย่างที่เดินเกม-เดินแต้มประสานกันล่าสุดตอนนี้ ทั้งคนกบฏ ทั้งพรรคกบฏ และทั้งนักวิชาการกบฏ เดินไปในแผนเดียว-จุดเดียวกัน คือ
ดึง UN ให้เป็นเจ้าเข้าครองประเทศ!
UN ที่ทักษิณเคยบอกว่า "ไม่ใช่พ่อ" นั่นแหละ แต่ตอนนี้ นับถือเป็นพ่อขึ้นมาแล้ว สั่งให้จตุพร-ณัฐวุฒิ ปากแข็ง-ตูดนิ่มยืนกรานกับฝ่ายรัฐบาลอยู่นั่นแหละว่า "ยอมเจรจา แต่ว่าต้องให้ UN เข้ามาเป็นคนกลาง"
ไอ้คนอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ใครซื้อก็พร้อมขาย ก็ดูซี...ขนาดประเทศชาติแท้ๆ เพื่อตัวมัน มันบังอาจ ไม่ละอาย เอาประเทศไปขายให้ UN หน้าตาเฉย!
ไอ้แผนดึง UN เข้ามา ก็คงจากคำแนะนำพวกบริษัททนาย บริษัทที่ปรึกษาทักษิณในต่างประเทศนั่นแหละ เป็นการเบิกช่องทาง-สร้างเงื่อนไขเพื่อการต่อสู้คดี เพราะมีแต่ช่อง UN ช่องเดียวเท่านั้นที่โลกใบนี้จะเหลือ "รูลอด" ให้ทักษิณได้ซุกหัวอยู่ เนื่องจากยุค "สื่อสารครองโลก" ขณะนี้ เจ้าระบบสื่อสารที่ตัวเองใช้เป็นเครื่องมือทำลายประเทศชาตินั่นแหละ มันกำลังย้อนสนองตัวเอง
ทักษิณ ชินวัตร สู่ระดับ บิน ลาดิน แล้ว!
ก็ ด้วยจาก "สื่อสารครองโลก" เหตุการณ์ที่เกิด คำพูดผ่านวิดีโอลิงค์-โฟนอิน และคำให้การสมุนในเมืองไทย โดยเฉพาะจากเสธ.แดง ระบบสื่อสาร มันทำให้คนดู-คนฟัง ประมวลเรื่องและรวบรวมให้เห็นภาพได้ว่า
ทักษิณนั่น แหละ "หัวหน้าก่อการร้ายในไทย"!?
ที่ยกตัวเองไปเทียบ เนลสัน แมนเดลา บ้าง มหาตมะ คานธี บ้างนั้น คนทั้งโลกฟังแล้วหัวเราะ และ...ถุ้ย!
ลอง เรียบเรียงดู หลังเหตุการณ์กบฏแผ่นดิน มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายซุ่มสังหารนายทหาร วินาศกรรมเมือง กระทั่งยิงเอ็ม ๗๙ หวังระเบิดคลังน้ำมัน
ล่าสุด จากปากของ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" ที่ประกาศเมื่อ ๙-๑๐ พ.ค.ก่อนถูก "มือลึกลับ" ใกล้ตัว ประกบจ่อยิงศีรษะเสียชีวิตทิ้งปริศนา "ใครสั่งฆ่า" คนไกล...หรือใกล้ตัว
เส ธ.แดงประกาศ ไม่เอาแผนปรอง ค้านวีระเจรจาสลายชุมนุมกับรัฐบาล แล้วตัวเองประกาศ ประสานแกนนำกบฏในต่างจังหวัด จะยึดเวทีเป็นหัวหน้าแกนนำชุมนุมต่อ
....ผมรับคำสั่งตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว!?
บทบาทคลุมเครือเสธ.แดงที่ให้ภาพพัวพันทั้ง "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" และทั้งภาพเปิดเผย "หัวหน้าการ์ด นปช." รวมถึงผู้ฝึกสอนกองกำลังทหารเสือพระเจ้าตาก ในรอบ ๒-๓ ปี เมื่อถูกประชาคมโลกนำแต่ละภาพมาเป็นจิ๊กซอว์ ก็พอดีมาบรรจบกับคำสารภาพสุดท้ายของเสธ.แดงเองว่า "ทำงานรับคำสั่งตรงจากทักษิณ"
ภาพ "ทักษิณ-หัวหน้าก่อการร้าย" ที่ชักใยปฏิบัติการอยู่ในเมืองไทย...ชัดเป๊ะ!
ยิ่ง ศอฉ.ออกมาประกาศว่า เหตุการณ์ในเมืองไทยประจักษ์ชัดว่ามี "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" คละเคล้าอยู่กับผู้ชุมนุมสันติ-อหิงสาจริง และการก่อวินาศกรรม การซุ่มสังหารนายทหาร การวินาศกรรม และปฏิบัติการต่อต้านกำลังรัฐ นี่..มันครบ "องค์ประกอบ" ของการเป็นปฏิบัติการ "ผู้ก่อการร้าย" ชัดแจ้ง!
และ นั่นก็คือ "ทักษิณ-หัวหน้าก่อการร้าย" เทียบชั้น บิน ลาดิน แต่ชั้นเลวกว่า บิน ลาดิน ก็ตรงที่ บิน ลาดิน ทำลายที่อื่น-คนอื่น-ประเทศอื่น ไม่ทำลาย และไม่ทำร้ายประเทศตัวเอง พี่น้องร่วมชาติตัวเอง ซึ่งเป็นหน้ามือกับหลังเท้า เพราะ....
ทักษิณ...ทำทุกอย่างที่ "บิน ลาดิน" ไม่ทำกับชาติของเขา!
ด้วยภาพ "หัวหน้าขบวนการก่อการร้าย-ชั้นเลว" ของทักษิณ อันประจักษ์ต่อชาวโลกเวลานี้ จึงทำให้พื้นที่ในการหยั่งเท้าของทักษิณเหลือน้อยเต็มทน และเท่าที่มีให้ยืน ก็ต้องยืนแบบเขย่งเท้า-แขม่วท้อง ถูกห้ามใช้พื้นที่ประเทศนั้นๆ เป็น "ฐานบัญชาการ" ก่อการร้ายข้ามชาติ
การ ให้พรรคเพื่อไทย ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำกบฏ ประสานเสียง-ชูประเด็น ให้ UN เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ ก็คือแผนการดึง UN มาเป็นขอนไม้ให้เกาะเท่านั้น เมื่อเหลือตาเดินไม่มาก ตัวเองก็...หางโผล่ โดยให้บริษัทที่ปรึกษากฎหมายในต่างประเทศออกแถลงการณ์ "ประสานเสียง" กับกลุ่มกบฏเมื่อวานนี้ (๑๗ พ.ค.๕๓) มีข้อความว่า
"ผมขอเรียกร้องให้สห ประชาชาติเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจาในทันที สหประชาชาติไม่ควรถูกกดดันให้นิ่งเฉย โดยนายกรัฐมนตรีที่ไม่เข้าใจว่าสิทธิในการมีชีวิตอยู่เป็นหลักสากลที่ทำให้ พวกเราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน"
ความจริงน่ะ ถ้าทักษิณต้องการร้องขอความช่วยเหลือกับองค์กรระหว่างประเทศ ด้วยความหวังดีกับคนไทย-ประเทศไทยจริงๆ ละก็ ควรไปร้องกับ "มูลนิธิแก้ไขปัญหาโลกร้อน" จะถูกที่-ถูกทางมากกว่า เพราะสิ่งที่พวกกบฏทักษิณทำขณะนี้คือการเผายางรถยนต์ นั้น มันสร้างควันดำเป็นมลพิษคลุมโลกมา ๓-๔ วันแล้ว
ผมไม่เข้าใจ พวก ส.ส.-ส.ว. พวกนักวิชาการบางคน กระทั่งพวก "ผีผสมแดก" ในพรรคร่วมบางพรรคก็ดี เรียกร้องแต่ว่า รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ อย่าใช้ความรุนแรง ให้รัฐบาลใช้วิธีเจรจา กระทั่งว่า ให้รัฐบาลยุบสภา-ลาออกไปเลย แล้วปัญหาจะจบ
ทำไมไม่มองถึงต้นเหตุล่ะว่า ใครคือตัวสร้างปัญหา และใครคือฝ่ายใช้ความรุนแรง และทำไมไม่พูด-ไม่บอกล่ะว่า "ต้นปัญหาคือพวกกบฏนั่นแหละ ควรสลายการชุมนุมที่เกินกรอบกฎหมาย สั่งให้กองกำลังไม่ทราบฝ่ายหยุดเผาเมือง แล้วมานั่งโต๊ะเจรจากับรัฐบาลที่เขารออยู่?"
จากข้อมูลข่าวสาร เบื้องหน้า-เบื้องหลัง และเบื้องลับ ของเหตุการณ์ต่างๆ ที่ค่อยๆ ไหลออกสู่สาธารณะในยุค "สื่อสารครองโลก" ขณะนี้ มันยิ่งสนับสนุนความคลางแคลงสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจสังคมมานานให้ชัดขึ้นว่า ในขบวนการก่อการร้าย อันมีคำว่า "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" เป็นตัวลงมือนั้น
รูป แบบปฏิบัติการมันฟ้องว่า นี่คือการสนธิกันระหว่าง "ตำรวจ-ทหารในราชการ กับ ตำรวจ-ทหารนอกราชการ" กลุ่มหนึ่ง!?
จะกลุ่มไหน-ใครเป็นใคร น่าจะไปค้น "คำสั่ง ศอฉ." ที่ ๔๙/๒๕๕๓ ที่ออกเมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค.เรื่อง "ตัดท่อน้ำเลี้ยง" สั่ง ๑๐๖ คน ต้องรายงานการทำธุรกรรมทางการเงินมาดูว่า...มีใครบ้าง?
และที่ควรสังเกต ไว้ คำสั่ง "ตัดท่อน้ำเลี้ยงกบฏ" คำสั่งนี้ คนที่ลงนามท้ายคำสั่งคือ..."พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน!!!!!
ครับ...ต้องถือว่า เป็นคำสั่งที่กรวดน้ำคว่ำขัน "ผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ" ตัดเป็นตัดตายกันไปเด็ดขาด ระหว่างเส้นทางสาย "ทักษิณ" กับเส้นทางสาย "อนุพงษ์"
จะพูดว่า นี่คือการชี้ขาด "ชีวิตทหาร-ชีวิตการเมือง-ชีวิตคนแก่หลังเกษียณ" ว่า พลเอกอนุพงษ์ ตัดสินใจเลือก "ทางไหน-เป็นทางเดิน" หลังเดือนกันยายน ๒๕๕๓ เป็นต้นไป นี่มันก็....ชัดเจนแล้ว!
"หลังเสือ" จำต้องเป็นที่อยู่ "หลังเกษียณ" ของพลเอกอนุพงษ์
"ยากหนี" เสียแล้ว!?