Monday, April 12, 2010

ย้อน รอยเอ็ม 79 ถล่มแยกคอกวัว ทหารหักทหาร...บูรพาพยัคฆ์อัสดง?

การสูญเสียนายทหารฝีมือดีอย่าง พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม
รองเสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(รองเสธ.พล.ร.2 รอ.)
ณ สมรภูมิสี่แยกคอกวัว สร้างความสลดใจไปทั่วในหมู่คนในเครื่องแบบสีเขียว

แต่ พ.อ.ร่มเกล้า ไม่ใช่นายทหารระดับสูงเพียงคนเดียวที่ตกเป็นเป้าสังหาร
เพราะยังมีนาย ทหารระดับนายพลอย่าง พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล ร.2 รอ.
ได้รับบาดเจ็บ จากสะเก็ดระเบิดเอ็ม 79 ถึงขั้นขาหัก 3 ท่อน และ
ระดับผู้พันอย่าง พ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2
กรมทหารราบ ที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 พัน 2 รอ.)
ถูกสะเก็ดระเบิดจนต้องผ่าตัดสมอง ด้วย

ที่น่าสนใจก็คือทั้งหมดเป็นนายทหารสาย "บูรพาพยัคฆ์"
จากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
ขณะที่พลทหารอีกจำนวนหนึ่งที่ เสียชีวิตก็สังกัดหน่วยทหารหน่วยนี้เช่นกัน

ปากคำทหารที่อยู่ในเหตุการณ์บอกกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า
ขณะเกิด มิคสัญญีที่สี่แยกคอกวัว พล.ต.วลิต ซึ่งออกมาบัญชาการภาคสนามด้วยตัวเอง
นั่ง ประชุมวางแผนอยู่บนฟุตบาทริมถนนตะนาวห่างจากสี่แยกคอกวัวไปทางตลาดบาง ลำพู
โดย มี พ.อ.ร่มเกล้า กับ พ.ท.เกรียงศักดิ์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ห่าง

จู่ๆ โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ก็มีลูกระเบิดเอ็ม 79 ถูกยิงมาจากที่สูงตกลงกลางวงนายทหารระดับสูง
ที่กำลังนั่งหารือสถานการณ์ และไม่ใช่แค่ลูกเดียว แต่เป็นการยิงถล่มถึง 2 ลูกซ้อน
เป็นเหตุให้ พล.ต.วลิต กับ พ.ท.เกรียงศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน พ.อ.ร่มเกล้า
ไม่ มีข้อมูลยืนยันว่าได้รับบาดเจ็บจากจังหวะนี้หรือไม่

แต่นาทีชีวิตยังไม่ผ่านพ้นไป เพราะมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มซ้ำเข้าไปอีก
จน พ.อ.ร่มเกล้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ที่ น่ากังขาก็คือในสถานการณ์ชุลมุนวุ่นวาย เหตุใดกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจึงเลือกเป้าได้อย่างแม่นยำยิ่ง!

นายทหารที่มีประสบการณ์ในสนาม ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่
ผู้ ชุมนุมทั่วไปหรือคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการทหารจะสามารถ แยกแยะออกว่าใครเป็นใคร
เพราะทหารที่ออกปฏิบัติการล้วนใส่ "ชุดฝึก" ซึ่งหากมองผ่านๆ ก็จะเหมือนๆ กันไปหมด
ยิ่งในช่วงเวลาแห่งความสับสน ยิ่งยากที่จะรู้ว่าใครเป็นใคร ใครเป็นนาย ใครเป็นลูกน้อง

ทหาร ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าเห็นแสงเลเซอร์เป็น
ลำสีแดงพุ่ง ตรงมายังจุดที่นายทหารระดับสูง
นั่งกันอยู่ก่อนถูกถล่ม!

เสียงวิจารณ์ว่างานนี้คงไม่ใช่แค่การปะทะกันระหว่างทหารชุดรักษาความสงบกับ
ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงจึงดังกระหึ่มในแวดวง "คนมีสี" หลายเสียงเชื่อว่านี่คือการ "ล็อคเป้ายิง"
โดยมีเงื่อนงำลึกลับซับซ้อน ยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากันระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายต่อ ต้านรัฐบาล

ประการแรก พล.ร.2 รอ. คือหน่วยที่ปฏิบัติการสลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
ในเหตุการณ์ เมษาฯ เลือด เมื่อปี 2552 เป็นปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างแทบจะไร้ที่ติ
เพราะไม่มีผู้ใด เสียชีวิต ในขณะที่บางกลุ่มบางฝ่ายอยากให้มีการสูญเสียใจแทบขาด

และ พ.อ.ร่มเกล้า กับ พ.ท.เกรียงศักดิ์ ก็คือสองขุนพลที่ปฏิบัติการภาคสนามในวันนั้น
โดยมี พล.ต.วลิต เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด

ความพยายามตรวจสอบเพื่อค้นหาความจริงในเวลาต่อมา พ.อ.ร่มเกล้า คือ
กำลัง สำคัญของหน่วยที่เดินสายชี้แจง พร้อมเปิดหลักฐานทุกชนิด
เพื่อยืนยันว่า ปฏิบัติการที่สามเหลี่ยมดินแดงดำเนิน ไปตามขั้นตอนและกฎการปะทะทุกอย่าง
ไม่ มีการละเมิดสิทธิประชาชนผู้ชุมนุมเลยแม้แต่น้อย

บทบาทของ พ.อ.ร่มเกล้า ย่อมทำให้กลุ่มการเมืองบางฝ่ายไม่พอใจ...

ประการที่สอง การที่นายทหารทั้งสามล้วนเป็นสายเลือด "บูรพา พยัคฆ์" จาก พล.ร.2 รอ.
อาจทำให้พวกเขาตกเป็นเป้า เพราะ "บูรพา พยัคฆ์" คือ
กลุ่ม นายทหารที่ยึดกุมอำนาจแทบจะเบ็ดเสร็จในกองทัพบก ตั้งแต่หัวแถวอย่าง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุ พงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าจ่อเก้าอี้ ผบ.ทบ.คนต่อไป

นอกจากนั้นยังมี พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ต่อแถวอยู่อีกคน และ พล.ต.วลิต
ก็คือนายทหารมือดีในกลุ่มที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญต่อ ไป..
.ทั้งหมด ล้วนเติบโตมาจากเส้นทางสายเดียวกันทั้งสิ้น

การเติบใหญ่ของกลุ่ม "บูรพาพยัคฆ์" ย่อมทำให้นายทหารจากหน่วยอื่นๆ ไม่พอใจ...

ปฏิบัติการรุนแรงที่สี่แยกคอกวัว กับลูกระเบิดและกระสุนปืนที่พุ่งตรงสู่เป้าหมายคือ
นายทหารหน่วยนี้อย่าง แม่น ยำ เป็นคำตอบที่คนในวงการฟันธงว่า
น่าจะเป็นฝีมือของ "คนมีสี" ด้วยกัน และน่าจะ "สีเดียวกัน"

นี่ ยังไม่นับแผนปฏิบัติ "ขอคืนพื้นที่" บริเวณโดยรอบเวที ชุมนุมเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
ที่ถูก ตั้งคำถามจากผู้มีประสบการณ์ว่า ทำกันอย่างนี้ได้อย่างไร
โดยเฉพาะการ เปิดปฏิบัติการในช่วงบ่ายถึงค่ำซึ่งยืดเยื้อโดยใช่เหตุ
ซ้ำยังสุ่ม เสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมือที่สามเป็นอย่างยิ่ง

"บิ๊กมีสี" บางคนถึงกับฟันธงว่างานนี้น่าจะมี "วางยา" และมี "ไส้ศึก" เสียด้วยซ้ำ...

ฤา กลุ่ม "บูรพาพยัคฆ์" กำลังถึงคราวอัสดง!